Monday, March 11, 2013

กิมจิแบบง่ายๆ

วิธีการทำกิมจิแบบง่ายๆ
• ผักกาดขาวปลี 1 ต้น
• เกลือเม็ด
• เกลือป่นสำหรับปรุงรส 1 ช้อนชา
• ซอสเกาหลีหรือน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่สับละเอียด 1/2 ช้อนชา
• กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
• ต้นหอมซอยละเอียด 2 ต้น
• แครอทซอยเป็นเส้น 1 หัว
• แอปเปิ้ลซอยเป็นเส้น 1 ลูก

วิธีทำ
1. แกะผักกาดขาวออกเป็นใบๆ แช่นำไว้สักครู่ หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ซาวกับเกลือเม็ด แล้วพักทิ้งไว้ 3 - 5 ชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง บีบน้ำออกให้หมด
2. เอาส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ชิมดูรสให้ออกเผ็ด เค็ม หรือตามชอบใจ หลังจากนั้นก็นำผักกาดขาวมาผสมเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ค้างคืนแล้วจึงเก็บไว้ในตู้เย็นต่ออีก 1-2 วัน ก็เริ่มทานได้แล้วล่ะ หรือใครอยากทานกิมจิสดก็ไม่ได้หมักค้างคืน เพียงแต่ใส่น้ำมันงาและงาขาวลงไปนิดหน่อยก็ทานได้แล้วอ่ะ.....



อีกสูตรนะคะ
http://qwer.dek-d.com/board/view.php?id=946829
ขั้นตอนการทำกิมจิแบบต้นตำรับ


กิม จิที่มีรสชาติอร่อยนั้น ต้องเป็นรสชาติแบบพื้นบ้านที่ทำกันในครัวเรือน ในส่วนนี้ได้รวบรวมขั้นตอนการทำกิมจิขั้นพื้นฐาน ที่สามารถทำได้เองด้วยวิธีแสนง่าย รับรองได้ว่ารสชาติเทียบเท่ากับต้นตำรับอย่างแน่นอน

ส่วนผสม
ผักกาดขาว1 หัว
เกลือ60 กรัม
หัวไชเท้า200 กรัม
สาลี่1/4 ผล
ต้นหอมเล็ก1/4 กำ
กุยช่าย1/2 กำ
กระเทียมสับ1 ถ้วยเล็ก
ขิงขูดเล็กน้อย
หอมใหญ่1/4 หัว
ปลาหมึก50 กรัม
ลูกพลับ1/4 แพ็ค
กุ้ง100 กรัม
ข้าวเหนียว2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป (จากสาหร่ายและปลาแห้ง)70 มล.
พริกป่น250 มล.
เกลือเล็กน้อย
ผงปรุงรส2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล3 ช้อนโต๊ะ
งาคั่วเล็กน้อย

วิธีทำ
ดองเค็ม การนำผักมาดองเค็มต้องอาศัยระยะเวลาและการปรับรสชาติให้อร่อย
1. นำผักกาดขาวมาแบ่งครึ่ง
2. เด็ดออกทีละใบ แล้วหมักเกลือในประมา
ขั้นตอนการปรุง การปรุงรสกิม
ส่วนผสมอย่างผลไม้และอาหาร
จิให้มีรสชาติที่อร่อย ให้ยึดตาม
ทะเล ด้วยก็ได้
รสชาติที่ตัวเองชอบ โดยอาจ
3. หั่นหัวไชเท้า สาลี่ ต้นหอมและผักกุยช่ายเป็นเส้นยาวประมาณ  4 ชม.4. ผสมหอมใหญ่สับ กระเทียมสับละเอียด และขิงขูด เข้าด้วยกัน5. หั่นปลาหมึก ลูกพลับและกุ้ง ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
6. ตั้งไฟ เติมข้าวเหนียวและน้ำในหม้อ จากนั้นคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน7. เติมน้ำข้าวเหนียวและน้ำซุปลงไปในชาม ผสมให้เข้ากัน8. เติมส่วนผสมในข้อ 3 4 5 ลงไป จากนั้นทิ้งไว้ 30 นาที แล้วปรุงรสด้วยส่วนผสมส่วนแรก
หมักเสร็จ เมื่อหมักเสร็จ
อร่อย
สามารถรับประทานได้ทันทีหรือนำมาประกอบอาหาร ก็ยิ่ง

9. ล้างผักแล้วดองเกลือทิ้งไว้ 6-7 ช.ม.10. นำเครื่องปรุงที่ทำไว้ในข้อ8. มาทาที่ผักแต่ละใบ จากนั้นเก็บเข้าตู้เย็นประมาณ 1 วันเต็ม
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bigsize&month=11-2006&date=05&group=1&gblog=32
ส่วนผสมผักกาดขาว 1 หัวใหญ่
แครอท ครึ่งหัวซอยให้เป็นเส้นๆ
ไชเท้า ครึ่งหัวซอยให้เป็นเส้นๆ
หัวหอมใหญ่ 1หัว(ฝนละเอียดครึ่งหัว อีกครึ่งหั่นเตรียมไว้)
กระเทียมสับ 1ชต.(ชอบมากใส่มากค่ะ)
ขิงขูดละเอียด 1ชต.(ชอบมากใส่มากค่ะ)
พริกเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
พริกกระเหรี่ยง 5-7เม็ด(แล้วแต่ค่ะว่าชอบเผ็ดแค่ไหน)
**พริกเกาหลีแพงค่ะ พริกบ้านเราก็มีประยุคซะเลย อิอิ**
แป้งข้าวเหนียว 1ชต.
น้ำตาลทราย 1ชต.
เกลือ 1ถุง(เกลือแบบถุงละบาทนะคะ จะให้รสดีกว่าเกลือไอโอดีนค่ะ)
*** บางสูตรใส่ บางสูตรไม่ใส่ค่ะ***น้ำปลาเกาหลี เศษ1ส่วน4ถ้วยหรือน้ำปลาไทยก็ได้ค่ะ(ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ เพระยู้เองก็ไม่ใส่ค่ะ แต่ยู้ใช่น้ำหัวเชื้อที่ปรุงเองมาใส่ค่ะ ทำจากคอมบุ ปลาแห้ง เกลือ น้ำตาล)

วิธีทำ
ล้างและหั่นผักกาดขาว พักให้สะเด็ดน้ำ



นำเกลือ1ถุงเล็ก ละลายน้ำ



จากนั้นเอาผักกาดขาวลงแช่ประมาณ5-8ชม.


หั่นและล้างผักที่เหลือเตรียมไว้



ล้างแหละหั่นพริกเตรียมไว้



นำพริก2อย่าง พริกเกาหลี น้ำปลา ลงไปปั่นรวมกัน



ปั่นออกมาแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ พักเอาไว้ก่อน



นำน้ำตาลและแป้งข้าวเหนียวใส่น้ำนิดหน่อย แล้วนำไปตั้งไฟจนแป้งสุกข้น *แป้งเป็นตัวให้ทำกิมจิเปรี้ยวค่ะ



จากนั้นนำแป้งที่สุกแล้วลงผสมกับพริกที่ปั่นแล้ว



นำหอมใหญ่ขูดครึ่งหัวใส่ผสมลงไป



5ชม.ผ่านไป เอาผักที่แช่น้ำเกลือเอาไว้ไปล้าง2-3น้ำแล้วบีบน้ำออกให้มากที่สุด



จากนั้นเอาผักทุกอย่างลงผสมกับซอสพริกที่ทำไว้



คลุกจนเข้ากันแล้วเทใส่ภาชนะเลยค่ะ สีสันน่าทานทีเดียวหมักไว้2-3วันในอุณภูมิห้อง ถ้าต้องการให้เปรี้ยวก็ทิ้งไว้นานหน่อยค่ะ



อยากกินเดี๋ยวนี้เลยอ่ะ ฮือๆ



กิมจิแบบทั้งต้นค่ะ ทำวิธีเดียวกันหลังจากแช่เกลือแล้วล้างน้ำและบีบน้ำออกให้ได้มากที่สุด



จากนั้นแหวกทีละใบทาพริกให้ทั่วทุกใบ



หลังจากทาทั่วแล้วจะได้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ



จาก นั้นนำใส่ภาชนะดองทิ้งไว้2-3วัน ถ้าชอบแบบเปรี้ยวให้ไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติได้ความเปรี้ยวที่ชอบแล้วจากนั้น ให้เก็บรักษษไว้ในตู้เย็นค่ะ แต่ถ้าชอบแบบไม่เปรี้ยวมากและอยากให้ผักดูสดให้นำเข้าตู้เย็น 

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.